นอกจากหอยนางรมย่างแล้วก็มีเมนูข้าว ราเมง อุด้ง ซึ่งวัตถุดิบสำคัญยังต้องเป็นหอยนางรม ซึ่งโผล่มาให้เห็นทุกจาน เลยสั่งข้าวหน้าหอยนางรมมาลองซะ หน้าคล้ายข้าวหน้าหมูทอดในเมนูบ้านเราและบ้านเขา รสชาติไม่แตกต่างกันแต่ความรู้สึกต่างตรงหอยมันนิ่มๆ ถ้าคนไม่ชอบคาวคงลำบากหน่อย กัดไปน้ำที่ยังมีอยู่ในหอยก็เยิ้มออกมา สาวกหอยนางรมคงชอบ
พอขึ้นฝั่งได้ช่วงบ่ายก็ไปอนุสาวรีย์ซาดาโกะ อะตอมมิคโดม เดินรอบๆสวนเฮวะคิเนน โคเอ็น ก็เริ่มหาแหล่งพึ่งพิงทางกระเพาะต่อ ตามแผนจะต้องไปหาโอโคโนมิยากิ ที่ตึกรวมมิตรโอโคโนมิยากิให้จงเจอและกินมันเข้าไป พอไปถึงสภาพมันผิดกับพิพิธภัณฑ์ราเมงเลย เหมือนเดินเข้าไปตลาดเขียงหมูที่แบ่งเป็นบล็อคๆ มีคนทำและคนกินใกล้ชิดกันมาก กินเสร็จหัวเหม็นกันออกไปแน่นอน และเหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งของเหมือนกันอยู่ด้วยกันเป็นจำนวนมากและไม่มีความแตกต่างเลย มันทำให้เลือกลำบาก ทั้งๆที่เรามีชื่อร้านแนะนำมาด้วย (แต่หาไม่เจอ) เลยตัดสินใจกันไปแผนสองกันดีกว่า ที่ร้านมิชชาง
พอถึงหน้าร้านเกิดอาการลังเล เหมือนอีบ้านนอกจะเอาไงดี ส่งตัวแทนโผล่หน้าเข้าไป แล้วหันกลับมาบอกว่าไม่มีคนเลยว่ะ จะดีเปล่าเนี้ยะ ชั่วหนึ่งอีดใจเป็นไงเป็นกัน พอเราได้โต๊ะสั่งไปเรียบร้อย สักพักมนุษย์เงินเดือนก็ทะยอยกันเข้ามา เริ่มทำให้พวกเรารู้สึกอุ่นใจได้สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้
โอโคโนมิยากินอนแอ่งแหม่งให้ทอดพลิกคว่ำพลิกหงายกันเป็นแถว ที่ร้านมีเมนูหลายหน้าให้เลือกที่สั่งมาเป็นแบบธรรมดา กับแบบหน้าต้นหอม หน้าตาออกมาก็ไม่ได้หรูหราอะไรเหมือนก๋วยเตี๋ยวผัดใส่ไข่แต่รสชาติกินแล้วไม่มีวันลืม อร่อยมากถึงมากที่สุดเมื่อเทียบกับเจ้าที่เคยได้กินมา แล้วที่ร้านก็มีซอสสูตรพิเศษของทางร้านให้ซื้อกลับไปทำเองที่บ้านด้วย แต่ไม่ได้ซื้อมาเพราะทบทวนดูแล้วพอกลับถึงบ้านก็คงใช้เป็นซอสจิ้มหมูทอดแน่ และอีกหลายวันกว่าจะกลับบ้านเผลอๆ จะเน่าซะกลางทางเลยตุนกินกันให้เต็มคราบกันไปเลยดีกว่า
หน้าโอโคโนมิยากิแต่ละเมืองก็แตกต่างกันไป
โอโคโนมิยากิที่โอซาก้า |
โอโคโนมิยากิที่เกียวโต |
โอโคโนมิยากิที่ฮิโรชิม่าร้านมิชชาง อร่อยสุด!! |